-
This is Slide 1 Title
This is slide 1 description. Go to Edit HTML and replace these sentences with your own words. This is a Blogger template by Lasantha - PremiumBloggerTemplates.com...
-
This is Slide 2 Title
This is slide 2 description. Go to Edit HTML and replace these sentences with your own words. This is a Blogger template by Lasantha - PremiumBloggerTemplates.com...
-
This is Slide 3 Title
This is slide 3 description. Go to Edit HTML and replace these sentences with your own words. This is a Blogger template by Lasantha - PremiumBloggerTemplates.com...
Sunday, May 15, 2016
เอาแล้วไง !! หมอนวดเทวดา รักษา “อัมพฤกษ์” เดินได้ และ “คนใบ้” กลับมาพูดได้ ความจริงเป็นแบบนี้ จริงหรอเนี้ย !?

หมอนวดเทวดา รักษา “อัมพฤกษ์” เดินได้ และ “คนใบ้” กลับมาพูดได้

หมอนวดเทวดา ช่วยผู้ป่วย “อัมพฤกษ์” เดินได้และ “คนใบ้” กลับมาพูดได้ จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊ก และมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมากถึงคลิป นายเสน่ห์ ศรีประวัติ หมอนวดแผนโบราณ ที่บ้านห้วยสีเสียด ต.ห้วยสีเสียด อ.ภูหลวง จ.เลย ขณะนวดรักษาอาการหูตึงและเป็นใบ้ของหญิงสาววัย 22 ปี รายหนึ่ง จนได้ยินเสียงและพูดได้เป็นบางคำ เช่นคำว่า แม่ ข้าว น้ำ ท่ามกลางความปลิ้มปิติยินดีของญาติที่พามารักษา ซึ่งผู้เผยแพร่คลิปในเฟซบุ๊กครั้งนี้ระบุว่า เป็นหนึ่งในคนไข้ที่เคยมารักษาอาการปวดไมเกรนแล้วหาย
ที่บ้านของนายเสน่ห์ ศรีประวัติ พบว่าหมอเทวดารายนี้กำลังรักษาคนป่วย โดยสวมชุดขาว มีคนป่วยมารอรักษาเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงสูงอายุ ที่มีอาการเจ็บตามข้อเข่า ปวดเอว ปวดกระดูก นอกจากนี้ยังมีคนวัยหนุ่มสาวมารักษาอาการปวดไมเกรนด้วย โดยเดินทางมาจากต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น ชัยภูมิ อุทัยธานี กำแพงเพชร ขณะเดียวกันยังพบกลุ่มแม่ชีมารอรับการรักษาด้ว
ส่วนสถานที่รับรักษาผู้ป่วย เดิมเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ อยู่ในไร่อ้อยท้ายหมู่บ้านห้วยสีเสียด
// ");document.write("
");document.write("
");}if(navigator.userAgent.match(/iPhone|iPod|iPad|Android/i)!=null){document.write("
");document.write("
");document.write("
");document.write("
");}// ]]>
แต่เมื่อเข้าไปถึงกับต้องตะลึง เพราะมีการนำเอาไม้เท้า ทั้งที่เป็นโลหะ และเป็นไม้กว่า 200 อัน มาแขวนไว้เป็นม่าน ซึ่งเอามาจากผู้ที่มารักษาแล้วหาย สามารถกลับมาเดินได้อย่างคล่องแคล่ว จึงทิ้งไว้ที่นี่ ไม่นำกลับไปใช้อีก
ก่อนการรักษานั้น หมอเสน่ห์จะให้ผู้ป่วยนำพานสีเงิน พร้อมดอกไม้และค่าครูมาไหว้ แล้วนั่งเก้าอี้ เริ่มจากนวดด้านหลัง สะบัก ใช้ไม้ปลายกลมมนจิ้มลงกระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อตามจุดต่างๆ แล้วนวดที่ขา และจบด้วยท่านอนนวด กดจุดที่ต้นขา พร้อมท่องคาถาไปด้วย รวมใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีต่อคน
นายเสน่ห์ ศรีประวัติ เล่าว่า การนวดลักษณะนี้เรียกว่า พลังจิตบำบัด เริ่มทำมาเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ มีอาชีพเป็นเกษตรกร แต่ตนชอบนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม และชอบช่วยเหลือคนอื่น จึงไปเรียนนวด จนได้ไปอนุญาตประกอบอาชีพ เปิดนวดรักษาให้คนทั่วไปที่เป็นโรคเกี่ยวกับข้อ กล้ามเนื้อ โรคไมเกรน หูตึง อัมพฤกษ์ อัมพาต ส่วนใหญ่อาการก็ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยอายุไม่เกิน 40 ปี จะหายเร็ว แต่ต้องมานวดหลายครั้ง บางคนนวดครั้งเดียวก็หายเลย
ก่อนจะนวดแต่ละวัน ตนต้องนั่งสมาธิ เพราะต้องใช้พลังจิตในการนวด หากไม่มีสมาธิ หรือพลังจิตไม่พอก็จะรู้สึกร้อนที่ศีรษะ สำหรับเงินค่ารักษาที่ผู้ป่วยให้เป็นค่าครู ไม่ได้เก็บสะสมแต่อย่างใด ส่วนใหญ่ก็จะนำไปทำบุญบริจาคให้วัด ให้โรงพยาบาล และโรงเรียนที่ขาดแคลน รู้สึกมีความสุข ที่เห็นคนมารักษาแล้วหายหรือดีขึ้น
นายธีรพล กุมภาพันธ์ อายุ 58 ปี ผู้ป่วยจากจังหวัดอุทัยธานี กล่าวขณะนั่งรถเข็นว่า ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้ายเมื่อปีที่แล้ว เพราะหกล้มศีรษะกระแทกพื้น เดินทางมารักษาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว มากินนอนอยู่ที่นี่เป็นเวลาสิบกว่าวันแล้ว ทราบข่าวจากเฟซบุ๊กว่าหมอเสน่ห์รักษาดี นวด 2 วัน ต่อ 1 ครั้ง ปรากฏว่าอาการดีขึ้น ลุกขึ้นนั่งได้ และเดินเกาะราวได้หลายก้าว ส่วนอาการบวมลดลง ที่ผ่านมาก็ไปรักษาหลายแห่ง ทั้งหมอแผนปัจจุบัน และแผนโบราณ ถือว่าหมอเสน่ห์ทำให้ตนมีความหวังที่จะกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
http://www.siamupdate.com/news-182813
Saturday, May 14, 2016
เมื่อชายคนนี้ตายลง พินัยกรรมที่เขียนไม่มีชื่อเธอซึ่งเป็นเมียใหม่ แต่มอบสิ่งนี้ให้ เธอเห็นถึงกับทรุดร้องไห้ !???

หลี่เหมยทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง มีช่วงหนึ่งมักเจอกับชายวัยกลางคน อายุ50 ปี เขาเตรียมจะซื้อชุดลำโพงที่มีคุณภาพเสียงดี 1 ชุด หลี่เหมยจึงช่วยอธิบายคุณภาพและโทนเสียงลำโพงให้เขา ชายผู้นี้รู้สึกประหลาดใจที่หลี่เหมยเข้าใจเพลงอย่างลึกซึ้ง และยังเปิดเพลงโปรดของเขาอีกด้วย
เพราะพวกเขามีความสนใจและสิ่งที่ชอบเหมือนๆกัน เลยมีเรื่องให้พูดคุยได้ตลอด และกลายเป็นความสนิทสนมขึ้นมา หลี่เหมย 30 ปี หน้าตาสวย ดูสะอาดสะอ้าน และมีนิสัยอ่อนโยน ในขณะที่ชายวัยกลางคนผู้นี้ ทุกคนเรียกเขาว่า เหล่าหวัง หลังจากที่เขาหย่ากับภรรยาเพราะภรรยาของเขามีชู้และออกนอกประเทศไปกับชู้ แล้ว เหล่าหวังก็เริ่มป่วย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่เป็นเวลานานถึงขะกลับมาแข็งแรง ตอนนี้เขาลาออกจากงานของเขาและพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เวลาว่างก็ฟังเพลงทำใจให้สบาย พอหลี่เหมยได้ฟังเรื่องราวของเหล่าหวังก็รู้สึกสงสารชายที่อยู่ตรงหน้าขึ้น มาจับใจ.....
พวกเขามักจะออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ มีอยู่วันหนึ่งเหล่าหวังชวนหลี่เหมยไปเต้นรำด้วยกัน พอจบเพลง เหล่าหวังก็สารภาพความในใจกับหลี่เหมย ทั้ง 2 ตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยกัน หลังจากหลี่เหมยและเหล่าหวังจดทะเบียนแต่งงานกัน ก็ไปฟังเพลง ร้องเพลง เต้นรำ ทำกับข้าวด้วยกัน ชีวิตมีความสุขมาก แต่ 3 ปีต่อมา โรคของเหล่าหวังกำเริบ หลี่เหมยก็ดูแลเขาอย่างดีจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตเขา หลี่เหมยยังไม่หายจากอาการเสียใจ ก็รู้ว่าเสี่ยวหวังได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ว่า หลังจากเขาตาย ให้บ้านและเงินฝาก 200,000 แก่ลูกสาวของเขา แต่ในพินับกรรมกลับไม่ได้พูดถึงชื่อของหลี่เหม่ยเลย ทำให้เหม่ยหลี่เกือบจะเป็นลม ....
หลี่เหมยแบกกระเป๋ากลับไปบ้านพ่อ แม่ พ่อถือสมุดสะสมแสตมป์มาให้หลี่เหมย บอกว่า 1 ปีก่อนเหล่าหวังเอามาให้ และบอกให้มอบให้กับหลี่เหมยหลังจากที่เขาตายแล้ว พ่อเปิดสมุดสะสมแสตมป์ออกมา ชี้ไปที่แสตมป์ชุดหนึ่งแล้วบอกหลี่เหมยว่า อันนี้มีมูลค่ากว่า 1 ล้าน หลี่เหมยร้องไห้ออกมา ในที่สุดเธอก็เข้าใจความตั้งใจของเหล่าหวัง เหล่าหวังไม่อยากให้หลังจากที่เขาตายไปแล้ว หลี่เหมยจะถูกตำหนิจากญาติของเขา และเขาก็ทนไม่ได้ที่จะให้ลูกสาวของเขาเสียใจ และยังต้องการรักษาชื่อเสียงของหลี่เหมย หลี่เหมยเข้าใจแล้วว่าเธออยู่ในหัวใจของเหล่าหวังเสมอ ก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา!
ความจริงเป็นอย่างนี้นี่เอง ช่างซาบซึ้งจริงๆ!
http://www.siamupdate.com/news-182792
หลังจากทั้งคู่แยกทาง ตอนนี้ "หมอสอง" เป็นแบบนี้ ชีวิตที่ไม่มี "หญิงแย้" อยู่เคียงข้าง

แม้ว่าจะมีข่าวเลิกรากับอดีตภรรยา “หญิงแย้ นนทพร” แต่ “หมอสอง” ยังคงใช้ชีวิตและทำงานตามปกติ พร้อมกับโพสต์ภาพและข้อความแบบนี้







ช็อกหนัก !! ทนายคนพิการ 6 คนร้าย แจ้งอาจได้โทษเพียงเท่านี้ ยังไงเนี้ย !?
By news at 12:30 PM
No comments
ล่าสุด วันที่ 14 พฤษภาคม 2559 นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความในคดีดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าว ทีนิวส์ ว่าความคืบหน้าของคดี ล่าสุดได้มีการสอบถาม ผกก.สน.โชคชัย 4 ว่าได้มีการตั้งข้อหาผู้ต้องหาฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ ปรากฏว่า ผกก. คดีนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมต่อผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย เพราะฉะนั้นในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ ตนจะนำครอบครัวของคุณสมเกียรติ ศรีจันทร์ ผู้ตาย ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า การที่พนักงานสอบสวนยังไม่ตั้งข้อหา ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำให้ตนมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องข้อหา ในการฟ้องคดีกัน เพราะว่าหากพนักงานสอบสวนไม่ตั้งข้อหาดังกล่าว จะทำให้อัตราโทษของผู้ต้องหาเบาลง แต่หากมีการตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองจะมีโทษประหารชีวิตสถานเดียว อย่างไรก็ดีหากตำรวจยังนิ่งเฉย ตนจะไปร้องขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล และหากตำรวจยังไม่ตั้งข้อหาอีก ตนจะทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด ในฐานะผู้รับผิดชอบคดีในการฟ้องร้อง ซึ่งตนจะสู้ให้ถึงที่สุด
http://www.siamupdate.com/news-182797
Friday, May 13, 2016
เอาแล้วไง !! เมียโจ๋หื่น เอาน้ำผสมยาบ้าข่มขืนเด็ก 8 ขวบ ออกมาพูดแบบนี้ ดราม่าสนั่นแน่ๆ

จากคดีสะเทือนขวัญ ด.ญ. อายุ 8 ขวบ ที่จังหวัดตรัง ถูกคนร้ายบังคับให้ดื่มน้ำอัดลมผสมยาบ้า แล้วลงมือข่มขืนเหยื่ออย่างทารุณ จนอวัยวะเพศฉีกขาด มีเลือดในช่องท้อง รวมไปถึงมีการล่วงละเมิดทางทวารหนักด้วย นอกจากนี้เหยื่อยังมีอาการประสาทหลอน ปวดท้องรุนแรง ก่อนจะไปเสียชีวิตที่รพ.ตรัง เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายศรัณย์รัชย์ ซู่สั้น อายุ 20ปี หรือนายเฟิร์ส

ล่าสุด วันนี้ (13 พ.ค.2559) ภรรยาของ นายเฟิร์ส ได้พาลูก 2 คน เข้ามาร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองตรุด จ.ตรัง พร้อมระบุว่า ขณะนี้สามีตกเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว ทั้งๆที่ความจริงยังไม่ปรากฏว่า ยืนยันว่าวันเกิดเหตุสามีอยู่กับตนและลูกๆที่บ้านตลอดทั้งคืน ไม่ได้เป็นคนร้ายแน่ อาจเป็นการวางงานของกลุ่มคนบางกลุ่มที่ต้องการให้สามีเป็นแพะ ไม่รู้ตำรวจเอาหลักฐานมาจากไหน คงต้องรอผลพิสูจน์ของดีเอ็นเอเท่านั้น ทั้งนี้มีรายงานว่าตำรวจเจอหลักฐานสำคัญบางอย่างบนที่นอนที่เด็กถูกข่มขืน รวมทั้งบนเสื้อผ้าของเด็กที่สวมใส่ด้วย คาดว่าคงมีความชัดเจนมากขึ้น
http://www.siamupdate.com/news-182786
แต่งงานประชดแม่กับสาวขี้เหร่ "นอนไม่มีอะไรกัน" ผ่านมา 2 ปี พบอะไรบางอย่าง ต้องเปลี่ยนความคิดไปตลอดกาล...???

เธอไม่มีความมั่นใจตั้งแต่ยังเด็กเพราะว่าเธอหน้าตาไม่สวย จมูกแบน ฟันเหยินและมีโครงหน้าที่อัปลักษณ์ ถึงแม้ว่าเธอจะสอบได้คะแนนสูงมาตลอดแต่หลังเรียนจบไม่เคยหางานที่ดีๆทำได้ เลย ในที่สุดเธอก็ได้งานในตำแหน่งจัดการโกดังสินค้าเพราะงานนี้ไม่จำเป็นต้องออก ไปพบหน้าผู้คน
คน ในครอบครัวและเพื่อนๆต่างคอยแนะนำเพื่อนผู้ชายให้รู้จัก และการดูตัวทุกครั้งก็ต้องผิดหวังอยู่เรื่อยไป ถ้าผู้ชายไม่หันหน้าหนีก็เดินกลับไปเลย แถมยังไปโทษแม่สื่อว่าทำไมมาแนะนำคนหน้าตาแบบนี้ให้
เธอเสียใจมากและต้องการไปทำศัลยกรรม แต่เพราะว่าไม่มีเงิน เธอจึงคิดว่าเธอคงไม่มีหวังอีกแล้ว
แต่ นึกไม่ถึงว่าเมื่อเธอไปดูตัวอีกครั้งหนึ่ง เธอได้พบกับผู้ชายที่หน้าตาดีและมีมารยาทมาก เขาเลี้ยงเครื่องดื่มเธอแล้วจึงพาไปทานข้าว เธอได้แต่คิดว่าผู้ชายที่หน้าตาดีแบบนี้คงไม่มีวันเลือกเธอเป็นแน่ เมื่อทานอาหารเสร็จเธอจึงแย่งจ่ายค่าอาหาร หลังจากนั้นไม่กี่วันแม่สื่อก็ติดต่อมาว่าฝ่ายชายยินดีแต่งงานด้วย
เธอ ไม่เชื่อว่าชีวิตนี้จะได้พบกับผู้ชายที่ไม่รังเกียจเธอ เธอคิดว่าสวรรค์ได้ตอบแทนคุณความดีที่เธอเคยทำแล้ว หลังจากนั้นเธอจึงรู้ได้ว่าที่เขาแต่งงานเพราะอยากประชดที่พ่อแม่ไม่ยอมรับ และรังเกียจแฟนเก่าที่หน้าตาดีเกินไป ถึงแม้จะแต่งงานกันแต่เขาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอเลย เพราะในใจเขาไม่เคยลืมเรื่องแฟนเก่า

ทุกๆ วันเธอปรุงอาหารดีๆไว้รอเขากลับบ้าน เธอยังบอกสามีอีกว่าถ้าอยากจะหย่าเมื่อไหร่ก็ไปหย่ากัน เธอรู้ดีว่ามีหลายคนที่หัวเราะเยาะเขาที่มาแต่งงานกับคนหน้าตาแบบเธอ แถมยังต้องแบกความอับอายนี้ไว้ เธอรู้ดีด้วยว่าเขายังไม่เคยลืมแฟนเก่าและยังติดต่อหากันตลอด
หลัง จากนั้นแม่สามีได้ล้มป่วยเป็นอัมพาต เธอจึงลาออกจากงานมาดูแลแม่สามี เธอถามว่า "ทำไมถึงไม่ยอมให้ลูกชายแต่งงานกับแฟนเก่า? เพียงเพราะเธอสวยเกินไปหรือเปล่า?"
แม่ สามีส่ายหัวปฏิเสธพูดว่า "แฟนเก่าเป็นคนที่มีความสุขด้วยกันได้แต่ทนทุกข์ลำบากร่วมกันไม่ได้ ผู้ชายจะมัวหาแต่เมียสวยๆอย่างเดียวไม่ได้"
แม่ สามีพูดถูก เพราะแฟนเก่าของสามีไปทำธุรกิจแล้วให้เขาช่วยค้ำประกัน เมื่อธุรกิจล้มเหลวไม่เป็นท่ากลายเป็นหนี้เป็นสินมากมายแล้วยังมาหลบหนีหาย ตัวไปอีก ทำให้เขารู้สึกผิดหวังในตัวแฟนเก่ามาก เมื่อเธอและสามีใช้ชีวิตร่วมกันจนผ่านไป 2 ปีเขาก็ค่อยๆเริ่มยอมรับในตัวเธอจนมีลูกสาวที่น่ารักด้วยกันหนึ่งคน
แต่ เมื่อทั้งครอบครัวออกไปกินข้าวนอกบ้าน ยังคงมีคนนินทาว่าไม่เหมาะสมกัน สามีรู้ดีว่าเธอก็ไม่สบายใจจึงบอกเธอว่า ตอนแรกที่เขาแต่งงานเพราะต้องการจะประชดจริงๆ แต่พออยู่ด้วยกันแล้วเขาชอบที่จิตใจของเธอมากกว่า จนคิดว่าเป็นตัวของเขาเองนี่แหละที่ไม่ดีพอ
ทุก วันนี้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ถึงแม้จะยากลำบากในช่วงเริ่มต้น แต่ในที่สุดเธอก็ได้มีครอบครัวที่อบอุ่นและชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์
http://www.siamupdate.com/news-182783
ด่วน !! เตรียมให้พร้อมรับมือ พายุฝน-ลูกเห็บ ล่าสุดอุตุฯ เตรียมออกมาประกาศแบบนี้ โปรดระวังให้มาก

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 7 โดยระบุว่าในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 พ.ค. ประเทศ ไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บตกบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15-19 พ.ค. ใน ระยะนี้ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
ในช่วงวันที่ 13-14 พ.ค. หย่อม ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน กับมีแนวลมพัดสอบของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียง เหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก และในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ค. หย่อม ความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มพัฒนาตัวเป็นพายุไซโคลน และคาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางด้านตะวันออกของคาบสมุทรอินเดียใน ระยะต่อไป โดยพายุนี้ไม่มีกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยในระยะนี้
ภาคเหนือ อากาศ ร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-44 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 16-19 พ.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 16-19 พ.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. อากาศร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิ ต่ำสุด 27-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียสในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ตลอดช่วงลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนโดยทั่วไปในช่วงวันที่ 13-17 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตรในช่วงวันที่ 18-19 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไปในช่วงวันที่ 13-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 27-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียสในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
http://www.siamupdate.com/news-182779
สุดสลด !! ฆ่าโหดสาวเชียร์สินค้าดับ กู้ภัยน้ำตาคลอ เมื่อเห็นภาพนี้ ไม่น่าเลย !??

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 พ.ค. ร.ต.อ.วิโรจน์ สุชาติ รอง สว.(สอบสวน) สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายใน โครงการ 1 อาคารเอ ชั้น 5 ห้อง 3/206 ถนนรามคำแหง 2 ซอย 23 แยก7 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รอง ผบก.น.4 รรท.ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.สมชัย อนิวัตกูลชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.อุดมสุข แพทย์นิติเวช รพ.ตร. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ) และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดสูง 10 ชั้น บริเวณชั้น 5 ภายในห้องพักดังกล่าวพบศพน.ส.อัญชลี หรืออัน เทียนนาค อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/4 หมู่ 13 ต.ห้วยยาง อ.ทับสแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาชีพพนักงานเชียร์สินค้า นอนเสียชีวิตบนเตียงนอนสภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อกล้ามสีม่วง กางเกงขาสั้นสีเขียว นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ตรวจสอบตามร่างกายพบมีรอยถูกแทงด้วยของมีคมที่บริเวณหน้าอก 5 แผล บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ จากการตรวจสอบภายในไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และอาวุธมีดที่ใช้ในการก่อเหตุ
นอกจากนี้ ยังพบรอยเลือด และร่องรอยการรื้อค้นกระเป๋าสะพายข้างที่วางอยู่ปลายที่นอน และสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ 8 และรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแอททราจ สีไทเทเนียม ป้ายแดงหมายเลขทะเบียน ย8592 กรุงเทพมหานคร ที่เพิ่งซื้อมาได้เพียง 1 เดือน และจอดไว้ด้านล่างอาคารหายไป
จากการสอบปากคำนายชัยพร พวงลุน อายุ 25 ปี อาชีพนักฟุตบอลอิสระ สังกัดสโมสรสมุทรปราการ แฟนหนุ่มให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพาผู้ตายไปหามารดาของตน แถวม.ราม 2 เมื่อตอนบ่ายวันที่ 12 พ.ค. และออกไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนตอน 17.00 น. ก่อนจะแยกย้ายไปฉลองที่ได้รับชัยชนะ ซึ่งผู้ตายขอตัวกลับที่พัก จนเมื่อเวลา 00.20 น. ตนโทรหาผู้ตายอีกครั้ง และบอกว่ากำลังจะกลับ ต่อมาเวลา 03.00 น. ตนโทรหาผู้ตายอีกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเดินทางมาที่ห้องพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านนอก จึงใช้กุญแจไขเข้าไป พบน.ส.อัญชลีนอนคลุมโปงอยู่บนเตียง จึงเปิดผ้าห่มดูพบรอยเลือดจำนวนมากบริเวณหน้าอก ด้วยความตกใจจึงได้รีบวิ่งออกมาจากห้อง ก่อนจะมานั่งร้องไห้เสียใจที่บ้าน กระทั่งในช่วงเช้ามารดาจะออกไปขายของ มารดาเอะใจเนื่องจากไม่เคยเห็นบุตรชายเป็นอย่างนี้ จึงสอบถามจนรู้ทราบเรื่อง ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำตัวบุตรชายเข้ามอบตัว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
ด้านนางละไม ท้ายทอง อายุ 56 ปี มารดาผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูกทั้งหมด 4 คน น้องอันเป็นลูกคนที่ 3 ปกติน้องอันมีนิสัยร่าเริง พูดเก่งและเป็นที่รักของเพื่อนๆ โดยเมื่อปลายเดือนเม.ย. ลูกสาวเดินทางมาเยี่ยมตนที่บ้านย่านวัดเสาธงกลาง และบอกว่าจะซื้อแอร์มาติดให้ที่บ้าน และคุยกันครั้งสุดท้ายทางโทรศัพท์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งลูกสาวก็พูดจาตามปกติ ไม่ได้มีเรื่องหรือปัญหาอะไรปรึกษาตน จนมาทราบว่าลูกสาวถูกแทงเสียชีวิตภายในห้องพักดังกล่าว
พ.ต.อ.ทวีรัชต์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วทราบชื่อนายโอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวบุรีรัมย์ ขณะนี้หลบหนีกลับบ้านเกิดที่จ.บุรีรัมย์ ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการขออำนาจหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางและประสาน กับตำรวจในพื้นที่เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ทวีรัชต์ กล่าวว่า จากการสอบสวนมารดาผู้ก่อเหตุทราบว่า ตนอาศัยอยู่กับลูกสาว 2 คน ซึ่งเป็นห้องติดกันกับผู้ตาย โดยลูกชายของตนเพิ่งจะเข้ามาอาศัยอยู่เมื่อวันที่ 7 พ.ค. เพื่อหางานทำและยังไม่ทราบว่า ลูกชายของตนบุกเข้าไปภายในห้องและลงมือทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายหลบหนีไปด้วย
http://www.siamupdate.com/news-182784
เกือบตาย !! เข้าป่าหาดักสัตว์เห็นเงาตะคุ่มนึกว่าโดนผีหลอก พอเข้าไปดูถึงกับผงะ เมื่อ เป็นสิ่งนี้ …หนีตายแทบไม่ทัน..?

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง จากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีชายคนหนึ่ง ถูกหมีตะปบได้รับบาดเจ็บแล้วมารักษาตัวที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนช่องกุ่ม ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่โรงพยาบาลชุมชนดังกล่าว พบพยาบาลกำลังทำบาลแผล ให้กับนายราชันย์ มณีรัตน์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/2 ม.5 ต.โบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มีบาดแผลเกิดจากการถูกหมีตะปบ เป็นรอยเล็บหมีกว่า 5 รอย หลังพยาบาลทำความสะอาดบาดแผลให้แล้ว ได้ให้ญาติพานายราชันย์ไปเอ็กซเรย์ เนื่องจากนายราชันย์มีการเจ็บบริเวณชายโครงอย่างมาก
นายราชันย์ เล่าว่า ตนเดินทางมาจากโคราช เพื่อมาเยี่ยมนายราวิน มณีรัตน์ พี่ชายที่บ้านหนองบัว ม.7 ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร เมื่อช่วงสายๆ ตนนำบ่วงเข้าไปดักสัตว์ในป่าท้ายหมู่บ้าน ขณะเดินหาทำเลเพื่อดักบ่วง ก็เหลือบไปเห็น เงาตะคุ่มๆ คิดว่าเป็นคน จึงเดินเข้าไปทัก แต่กลับกลายเป็นหมีตัวสูงประมาณ 1 เมตร น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม ตนตกใจมาก จากนั้นหมีก็ปรี่เข้ามาหาตนแล้วใช้มือตบที่ลำตัว ครั้งแรกตนหลบทัน แต่ครั้งที่ 2 โดยเข้าไปเต็มๆ จนล้มคว่ำ
หลังล้มคว่ำหน้าแล้ว ตนก็แกล้งนอนนิ่ง ต่อมาหมีตัวดังกล่าวเดินมามองดูตน เห็นนอนนิ่ง จึงเดินจากไป ตนจึงตะเกียกตะกายมายังกระท่อม รอจนหลานมา จึงเล่าให้หลานฟัง หลานจึงกลับมาเอาซาเล้ง มารับตนมาโรงพยาบาล
ด้านผู้ใหญ่บ้าน ได้แจ้งเตือนชาวบ้านแล้วว่า ระยะนี้อย่าเข้าไปที่ป่าท้ายหมู่บ้าน เนื่องจากระยะนี้มีสัตว์ป่าหลายชนิดลงมาจากเขาเพื่อมาหาน้ำในคลองกิน หากพบเห็นคนก็จะเข้าทำร้าย นายราชันย์ ถือว่าดวงยังดี ที่แกล้งทำเป็นตาย ไม่เช่นนั้น คงถูกหมีควายขย้ำบาดเจ็บมากกว่านี้
http://www.siamupdate.com/news-182777
Thursday, May 12, 2016
ช็อกวงการ !! ด่วน นักร้องหนุ่ม ชื่อดังโดนแทงสาหัส อาการล่าสดเป็นแบบนี้ !?

ทำเอาเพื่อร่วมค่ายเพลง ตกใจไปด้วย เมื่อ นักร้องหนุ่ม วิว-ชัชวาล อาร์สยาม เผยภาพ โดนแทง อาการสาหัส ขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลลาดพร้าว โดยมีอาการแน่น หายใจไม่ออก




ขณะเพื่อนนักร้อง และแฟนคลับ ต่างเข้ามาสอบถามกันมากมาย ในโลกโซเชี่ยล พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้ปลอดภัยโดยเร็ว โดยบางคนบอกว่า เกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร เมื่อวานยังเพิ่งคุยกันอยู่
http://www.siamupdate.com/news-182773
มาแล้ว!!หวยซอง 7 เซียน นางพญา งวด 16/5/59


ข้อมูลหวยเด็ดชุดนี้เป็นเพียงแนวทางในการเสี่ยงโชคสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณ
http://www.doodiza.com/news13185.html
กรีดยางกลับบ้าน เจอลูกดิ้นปวดท้องนึกว่าโดนคุณไสย รีบส่งรพ.เด็กตาย หมอบอกถึงกับช็อก ร้องไห้ตามๆกัน

เกิดเหตุสลดเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ใน จ.ตรัง ถูกเพื่อนบ้านวางแผนให้ดื่มน้ำอัดลมผสมยาบ้า ก่อนข่มขืนภายในบ้านหลังพ่อแม่ออกไปกรีดยาง จนเด็กน้อยเกิดอาการอาการคลุ้มคลั่ง ปวดท้องรุนแรง และเสียชีวิตลงขณะรักตัวในโรงพยาบาล
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง น.ส.ศลิษา (ขอสงวนนามสกุล) มารดาน้องเก๋ (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ เล่าทั้งน้ำตาให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยความคับแค้นใจว่า เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. ขณะที่ตน และสามีออกไปกรีดยาง และได้ให้ลูกๆ 3 คน ประกอบด้วย พี่ชายอายุ 11 ปี นอนแยกห้องกัน ส่วนลูกสาวคนกลางอายุ 8 ปี และลูกสาวคนเล็กอายุ 4 ปี นอนด้วยกัน
ปรากฏว่า มีคนร้ายลอบเข้าไปในห้องนอนของลูกสาวตน และกระทำการข่มขืนลูกคนกลาง จนตนกลับเข้าบ้านในช่วง 6 โมงเช้า พบว่า ลูกสาวคนกลางมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และคลุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง ก็เข้าใจว่าลูกสาวอาจจะถูกไสยศาสตร์ จึงพาไปหาหมอดู แต่อาการไม่ดีขึ้น ตัดสินใจพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตรัง ซึ่งแพทย์ได้ซักถามถึงอาการของลูก ตนก็บอกแค่ว่าปวดท้องอย่างมากเพราะถูกเพื่อนบ้านบังคับให้ดื่มน้ำอัดลมเข้าไป แต่ไม่แน่ใจว่าในน้ำอัดลมนั้นมีส่วนผสมอื่นรวมอยู่ด้วยหรือไม่ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องปวดท้องอย่างรุนแรง
ต่อมา แพทย์จึงทำการล้างท้อง และฉีดยาให้ ก่อนที่จะให้น้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของโรงพยาบาล กระทั่งสังเกตเห็นร่องรอยการถูกข่มขืนตามร่างกาย แพทย์จึงเรียกแม่เข้ามาซักถาม ซึ่งตนก็ไม่ทราบมาก่อน และได้มีการสอบถามลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนั้นน้องยังมีสติดีอยู่ น้องได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียด ว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ค. มีเพื่อนบ้านชื่อว่า นายเฟิร์ส อายุ ประมาณ 20 ปี มีบ้านอยู่ห่างกันแค่ 500 เมตร มาที่บ้าน และบังคับให้ น้องเก๋ ดื่มน้ำอัดลมเข้าไป โดยปกติแล้ว นายเฟิร์ส เป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกันดี และเข้าออกที่บ้านอยู่เป็นประจำ เพราะเป็นเพื่อนกันกับพ่อของ น้องเก๋ จนกระทั่งช่วงที่ตนเองไปกรีดยางประมาณ ตี 2 จนถึงเช้า น้องเก๋ เล่าว่า มีคนมาชกหน้าท้อง และได้กระทำการรุนแรงกับตนเองอยู่เป็นเวลานานพอสมควร แต่ขณะนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ รู้แต่ว่ามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แต่ก็จำได้ว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร กระทั่งน้องสาวคนเล็กตื่นขึ้นมาเห็นชายคนดังกล่าวก็ได้วิ่งหนีไป
โดยเมื่อ น.ส.ศลิษา ผู้เป็นแม่ได้ทราบเรื่องทั้งหมด ก็ได้เดินทางเข้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหนองตรุด ในทันที ขณะที่น้องเก๋ก็ได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตรัง โดยแพทย์ได้แจ้งว่า ในน้ำอัดลมที่น้องเก๋ดื่มเข้าไปมีส่วนผสมของสารเมตแอมเฟตามีนอยู่ด้วย ทำให้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับน้องเก๋ หนูน้อยผู้เคราะห์ร้ายก็ได้เสียชีวิตลงภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลตรัง โดยแพทย์ระบุว่า หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยจากการชันสูตรของแพทย์ในเบื้องต้น พบว่า มีร่องการการถูกข่มขืน อวัยวะเพศฉีกขาด มีเลือดออกในช่องท้อง และมีการล่วงละเมิดทางทวารหนักร่วมด้วย ซึ่งทางแม่ และญาติได้ส่งร่างของ น้องเก๋ ไปผ่าพิสูจน์ อย่างละเอียดที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน พ.ต.ต.ชาญณรงค์ กลอนสม สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านหนองตรุด อ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ศลิษา อายุ 31 ปี ว่า ลูกสาวของตน คือ ด.ญ.เก๋ วัย 8 ขวบ ถูกเพื่อนบ้านข่มขืนกระทำชำเราจนมีอาการคลุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง และเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตรัง ในขณะที่แนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่า คนร้ายเป็นใคร และกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวอยู่ในขณะนี้
http://www.siamupdate.com/news-182766
Monday, May 9, 2016
จำได้ไหม!! "หมาจรจัด" ช่วยพริตตี้รอดข่มขืนจนตัวพิการ ล่าสุดสุนัขตัวนี้กลายเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว!!???

วันนี้ (9 พ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ สุนัขผู้ตัวหนึ่งชื่อ "โกโก้" ซึ่งในอดีตเจ้าโกโก้เคยเป็นสุนัขฮีโร่ที่ช่วย พริตตี้สาวที่เคยให้อาหารมันทุกวัน รอดพ้นจากการถูกข่มขืน แต่เจ้าโกโก้ก็โชคร้ายถูกคนร้ายตีจนขาพิการทั้ง 2 ข้าง และยิ่งเคราะห์ร้ายไปกว่านั้น เมื่อพริตตี้คนดังกล่าวได้ย้ายออกจากหอพักที่เคยอยู่ ปล่อยทิ้งเจ้าโกโก้ สุนัขยอดกตัญญูต้องคลานขาลากใช้ชีวิต เร่ร่อน เป็นที่น่าเวทนา
โดยเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดย นางสุภาวดี หอมวิเศษ หรือ ป้าอุ๊ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 10 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา สาวใจบุญที่เก็บสุนัขจรจัด และพิการมาดูแลไว้กว่า 100 ตัว โดยป้าอุ๊ เล่าว่าเจ้าโกโก้ เป็นสุนัขพันธุ์ทาง เพศผู้ สีน้ำตาล-ขาว อายุประมาณ 5 ปี ซึ่งมีสภาพหลังหัก ขาหลังทั้ง 2 ข้าง ลักษณะเศร้าซึม เวลาเดินไปไหนต้องคลานอย่างทุลักทุเล โดยก่อนหน้านั้นประมาณช่วงปลายปี 58 มันเคยอาศัยอยู่หน้าหอพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โพธิ์กลาง ซึ่งมักจะมีสาวพริตตี้นำเศษอาหารมาให้มันกินบ่อยๆ ทำให้มันรู้สึกผูกพันเหมือนเป็นเจ้าของ
ต่อมาวันหนึ่งพริตตี้คนดังกล่าวถูกคนร้ายงัดห้องเข้าไปเพื่อจะขโมยของ และพยายามข่มขืน แต่เจ้าโกโก้ ซึ่งนอนอยู่ใกล้แถวนั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของสาวพริตตี้ที่มัน คุ้นเคย จึงได้กระโดดเข้าไปต่อสู้กับคนร้ายอย่างสุดชีวิต จนตัวเองถูกคนร้ายทุบตีจนหลังหัก หัวแตก ขาพิการ และมีเลือดอาบทั้งตัว ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป ส่วนพริตตี้รายดังกล่าวกลับไม่สนใจใยดีไม่ยอมพาเจ้าโกโก้ที่เสี่ยงชีวิตเข้า ช่วยเหลือไปรักษา หนักสุดด้วยความกลัวพริตตี้สาวได้เก็บข้าวของย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นทิ้งให้ โกโก้นอนจมกองเลือดอย่างน่าเวทนา สุดท้ายต้องคลานไปหากินเศษอาหารกินอย่างอด ๆ อยาก ๆ จนกระทั่งตนไปพบเข้า จึงเก็บมาเลี้ยงไว้ที่บ้านอยู่ร่วมกับฝูงสุนัขจรจัดตัวอื่นๆ ซึ่งเจ้าโกโก้ จะเป็นสุนัขที่เชื่อง แสนรู้ และซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก ชาวบ้านหลายคนที่รู้ประวัติของเจ้าโกโก้ถึงกับยกย่องให้มันเป็น "หมาฮีโร่" เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ผู้มีความประสงค์จะให้ความช่วยเหลือสุนัขจรจัด และ "เจ้าโก้โก้" สามารถติดต่อไปได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 087-8775714 หรือบริจาคทุนทรัพย์ได้ที่บัญชีธนาคารทหารไทยสาขาพิบูลย์ละเอียด จ.นครราชสีมา ชื่อบัญชีนางสุภาวดี หอมวิเศษ เลขที่บัญชี 480-2-1563-4
http://www.siamupdate.com/news-182729
ยกมือไหว้แทบไม่ทัน! “เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม” สั่งนักดนตรีหยุดเล่นกะทันหัน หลังได้เจอหน้าชาวบ้าน ทำแบบนี้!?

ทำเอาแฟนเพลงในโลกโซเชี่ยลต่างแห่ชื่นชม นักร้องหนุ่มสุดฮอต "เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม" เจ้าของเพลงฮิต "อ้ายมีเหตุผล" โดยขณะที่เขากำลังเล่นคอนเสิร์ตที่งานแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด พ่อของเขาก็ได้เดินทางมาดูคอนเสิร์ตของลูกชายข้างหน้าเวทีเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยแต่งตัวธรรมดาเหมือนชาวบ้านทั่วไป ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าบุคคลนี้คือพ่อของศิลปินดัง ทันใดนั้น "เบิ้ล ปทุมราช" ได้สั่งนักดนตรีหยุดเล่น และเขาก็ได้ร้องเพลง "คำสอนของพ่อ" สดๆ หน้าเวที ทำเอาแฟนเพลงซึ้งน้ำตาแตก



http://www.siamupdate.com/news-182661
ด่วนสดๆ !! ฟังกันชัดๆ “ทนาย อนันต์ชัย” ออกมาเปิดใจ เพราะเหตุใดถึงช่วยชายพิการคนนี้ ซัดกลับประโยค ลูกตำรวจ แบบนี้!

กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่นับวันยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นในสังคมไทย กับการกระทำของเยาวชนที่โหดร้ายเกินมนุษย์ เกิดการฆ่า ฟัน เป็นเรื่องธรรมดา ล่าสุดเกิดขึ้นอีกครั้ง กรณีกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ใช้มีดฟันชายพิการจนเสียชีวิต เหตุเพราะเกิดปากเสียงทะเลาะกันจากคำดูถูก

ทั้งนี้คดีดังกล่าวเป็นที่จับตามองของสังคม เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเป็นลุกหลานของตำรวจ กลัวว่าผู้ตายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่อย่างไรก็ตามมี ทนายความ อนันต์ชัย ไชยเดช หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ได้อาสาเป็นทนายความให้ฝ่ายผู้เสียหาย พร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่ เพราะเหตุใดนั้น มาฟังคำตอบจากท่านทนายกันเลย

คิดเห็นอย่างไรกับคดีนี้ ลูกตำรวจ = ตำรวจช่วยกันเอง
“เท่าที่คลุกคลีอยู่กับวงการตำรวจมานาน คนเรามีโลภ มีโกรธ มีหลง มันก็ต้องอาจมีการอะลุ้มอล่วยกันบ้าง ซึ่งก็อาจจะมีบ้าง ขอพูดแค่นี้แล้วกัน เพราะหากให้ผมพูดอะไรไปตรงๆ มันก็อาจจะลำบาก ซึ่งทุกคนในเมืองไทย ก็คงรู้หมดว่า มันเป็นอย่างไร? ซึ่งผมเองก็รู้…
“น้าเกียรติ ผู้ตาย กับผม เราสนิทกันมาก เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจอหน้ากัน แกก็แซวเล่นกันกับผมตลอด แกไม่มีใคร หากไม่มีผม แกก็ไม่มีใครเลย ผมจึงเสนอตัวขอทำหน้าที่เป็นทนาย ว่าความให้กับผู้ตายเอง ครอบครัวเค้าจะได้ไม่ต้องพะวักพะวงกับคดีที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ น้าเกียรติ ต้องตายไปเปล่าๆ นอกจากนี้ อยากฝากไปถึง บรรดาผู้เห็น เหตุการณ์ทั้งหลายที่มีอยู่มากมาย ว่า หลายคนที่มีการถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอาไว้ หากไม่กล้าจะไปเป็นพยานในคดีนี้ ก็ช่วยส่งคลิปมาให้ผม หรือสื่อมวลชน หรือ แม้กระทั่ง ช่วยอัพโหลดคลิปเหตุที่เกิดขึ้น ลงบนยูทูบ หรือ เฟซบุ๊ก ก็ได้ เพราะหลักฐาน เหล่านี้สามารถนำไปใช้ในชั้นศาลได้ โดยเท่าที่ทราบตอนนี้ ในจำนวนคนร้ายก่อเหตุ เป็นลูกตำรวจ สน.โชคชัย 2 คน สน.บางชัน 2 คน โดยมียศ เป็นร้อยโท กับ นายดาบ ตามลำดับ ให้คำมั่น น้าเกียรติ ต้องไม่ตายฟรี"
http://www.siamupdate.com/news-182656
สาวขึ้นรถไฟฟ้า BTS พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ! เจอ ณเดชน์ อยู่ในท่านี้ แฟนคลับถึงกับกร๊๊ดหนัก

วันนี้นักข่าว สายบันเทิง สยามอัพเดท ได้รับรายงานว่า วันนี้บนโลกโซเชี่ยลมีประเด็นฮือฮา ของซุปตาร์คนหนึ่ง
ทำเอาผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส ถึงกับตกอกตกใจไปตามๆกัน เมื่อบังเอิญเจอซุปตาร์สุดฮอท "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ไปใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย
งานนี้เหล่าแฟนๆเลยไม่พลาดถ่ายภาพโมเม้นท์น่ารักๆและติดดินสุดๆของ หนุ่มแบร์รี่ มาแชร์กันให้ว่อน พร้อมๆกับเสียงชมในความ ติดดินและไม่ถือตัวของหนุ่ม ณเดช ที่ถือว่าเป็นการรณรงค์ให้ขึ้นรถสาธารณะมากขึ้น ช่วยไม่ให้รถติดและไม่เป็นการเสียเวลาด้วย



http://www.siamupdate.com/news-177319
พ่อแม่ร่ำไห้! หนุ่มวัย 17 โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ก่อนใช้ปืนปากกายิงขมับตัวเองดับ!

เมื่อเวลา 05.45 น. วันที่ 2 ต.ค.58 จนท.ได้นำร่าง นายอ๊อฟ(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรชาย ซึ่งอยู่บนรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน กบ 7844 นครปฐม เข้าแจ้งความ ว่า บุตรชายได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนหมดสติ จึงนำตัวมาส่ง รพ.ไทรน้อย แต่ทางแพทย์ของ รพ.ได้แจ้งว่า บุตรชายนั้นเสียชีวิตแล้ว จากนั้นจึงได้นำร่างมายังที่ สภ.ไทรน้อย จากการตรวจสอบของทางแพทย์พบว่า ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลเป็นร่องรอยรูกระสุน ที่บริเวณศีรษะด้านหลัง จำนวน 1 นัด กระสุนฝังใน จากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ผู้เสียชีวิตใช้เป็นอาวุธปืนปากกาขนาด .38 โดยพบปลอกกระสุนปืนยังคาติดอยู่ในลำกล้อง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเบื้องต้นและเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งได้ เดินทางไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานและข้อมูลรวมถึงรายละเอียด เพิ่มเติม ที่เกิดเหตุ อยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ในต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้บริเวณชั้นล่างพบกองเลือดจำนวนมากที่หยดลงมา ผ่านช่องกระดาน
พ่อและแม่ของผู้ตายได้เล่าว่า เมื่อเวลา 02.15 น. ตนได้นอนพักผ่อนอยู่บริเวณชั้น 1 ได้ยินเสียงดัง 1 ครั้ง จากนั้นก็มีน้ำไหลหยดลงมาจากชึ้น 2 มาที่พื้นชั้นล่างกระเด็นจนเปื้อนมุ้งไปทั่ว ซึ่งตอนแรกคิดว่าบุตรชายได้ทำน้ำหกลงมา จนกระทั่งผิดสังเกตที่น้ำไหลหยดลงมาจำนวนมากจึงได้เปิดไฟดูถึงพบว่า น้ำดังกล่าวนั้นเป็นเลือด จากนั้นตนเองจึงวิ่งขึ้นไปดู พบว่าร่างของบุตรชายนอนแน่นิ่งเหยียดยาวบนที่นอนสภาพหมดสติ จึงให้ นายณรงค์ ออกไปหยิบยืมรถกระบะของญาติ และรีบนำตัวบุตรชายส่ง รพ.ไทรน้อย เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ แต่เมื่อถึง รพ.ทางแพทย์แจ้งว่าบุตรชายได้เสียชีวิตแล้ว จึงนำศพลูกชายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ
นางบุญมี กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ 4 วันบุตรชายมีอาการซึมเศร้าผิดสังเกต โดยปกติจะเป็นคนชอบคุยและร่าเริง ซึ่งได้มีการสอบถามและพูดคุยถึงสาเหตุแต่บุตรชายไม่พูดจาหรือบอกปัญหา จนกระทั่งมาใช้อาวุธปืนปากกายิงตัวเองจนเสียชีวิต ก่อนหน้านี้บุตรชายจบการศึกษามัธยมต้นจากโรงเรียนวัดสโมสร และจะไปศึกษาต่อที่เทคโนโลยีปทุมธานี แต่ด้วยระยะทางที่ไกลบ้าน และเกรงว่าจะถูกทำร้ายจากอริต่างสถาบัน ตนจึงได้ให้บุตรชายหยุดเรียนและมารับจ้างทำงานทั่วไป ต่อมาเพื่อนลูกชายนำเฟซบุ๊กของลูกชายมาให้ดู โดยโพสต์ว่า เขาไม่อยากอยู่แล้ว ชีวิตนี้ไม่รู้จะเกิดมาเพื่ออะไร ไว้อาลัยให้ตัวเอง ไม่รู้ลูกชายน้อยใจอะไร
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวในเบื้องต้นได้ทำการเก็บอาวุธปืนปากกา และปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 ที่อยู่ในลำกล้อง ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุไว้ตรวจสอบพร้อมทั้งได้เรียกพ่อแม่เข้าให้ปากคำและ ยืนยันว่าไม่ทราบสาเหตุที่ลูกชายก่อเหตุในครั้งนี้ แต่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะมีการน้อยใจอะไรบางอย่าง ซึ่งทราบจากแม่ว่าผู้ตายได้มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า "เขาไม่อยากอยู่แล้ว ชีวิตนี้ไม่รู้จะเกิดมาเพื่ออะไร ไว้อาลัยให้ตัวเอง" เป็นข้อความสุดท้าย ก่อนที่ผู้ตายจะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพื่อชันสูตร ต่อไป
http://www.siamupdate.com/news-177345
สุดเฮง! ชาวนาถูกหวยรับเต็มๆ 6 ล้าน เผยเดือนที่แล้วก็ถูก ก่อนถูกหวยได้ทำแบบนี้ ชาวบ้านถึงกับทำตาม

วันนี้ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานที่แฟนเพจ ของสยามอัพเดท โดยสมาชิกคุณ ทศพร ว่า เมื่อวานนี้ได้มี
ชาวนาบ้านชุมแสง ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สุดเฮงถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ดีใจสุดๆ จะทุ่มเงินปลดหนี้ ธกส.ล้านกว่าบาท เผยลูกชายคนเล็กวัย 5 เดือนให้โชคตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม ก็ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว มาตลอด กำลังน่ารักพ่อแม่ถามหวยออกอะไรก็จะชูมือชูไม้ จึงตามซื้อเลขท้าย 3 ตัวมาตั้งแต่งวดที่แล้ว มางวดนี้ซื้อได้ 1 คู่ได้ 6 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลกว่า มีคู่สามีภรรยาชาวบ้านชุมแสง ม.2 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เป็นผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ตุลาคม 2558 หลังจากซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากตลาดนัดในชุมชนบ้านหนองพยอม ต.ชุมแสงสงคราม มาจำนวน 1 คู่
ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านชุมแสง พบนายอำนวย อายุ 24 ปี และนางสาวสุภาภรณ์ อายุ 21 ปี คู่สามีภรรยาที่บ้านพัก โดยมีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมแสดงความดีใจจำนวนมาก
นายอำนวย หนุ่มผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 เปิดเผยว่า ภรรยาเป็นผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจากตลาดนัดชุมชนบ้านหนองพยอมมาจำนวน 1 คู่ โดยตามจากเลขท้าย 3 ตัว ที่ซื้อตามมาจากงวดวันที่ 16 กันยายน 2558 ซึ่งงวดนั้น ไม่ถูกรางวัล แต่งวดนี้ ช่วงเวลาเย็น ขณะที่กำลังเตรียมตัวย่ำแปลงนา และภรรยาขายของอยู่ในร้านขายของชำที่บ้านพัก ก็ลุ้นการออกรางวัล ซึ่งรู้แน่ว่าเลข 3 ตัวท้ายตรงกับรางวัลที่ 1 แน่นอน จากนั้นก็มาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า ถูกรางวัลที่ 1 จากนั้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ชุมแสงสงคราม
นายอำนวย เผยดีใจอย่างมาก ที่ถูกรางวัลที่ 1 เพราะตนมีหนี้กับ ธ.ก.ส.และหนี้นอกระบบอื่นๆ ร่วมล้านกว่าบาท ได้กู้เงินมาสร้างบ้านพักเพื่อเปิดเป็นร้านขายของชำ และนำลงมาลงทุนทำนา ที่เช่าที่นาในละแวกนี้ทำนาจำนวน 70 ไร่ ได้เงินมา จะทุ่มใช้หนี้ให้หมด เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำนาได้เงินไม่มาก บางฤดูกาลก็ขาดทุน ประสบปัญหาแมลงระบาด ภัยแล้ง เมื่อขึ้นเงินแล้วจะใช้หนี้ทั้งหมดให้ปลดภาระไป ทั้งหนี้ของตนเอง หนี้ฝ่ายภรรยา ที่เหลือก็จะนำไปทำบุญส่วนหนึ่ง และเก็บเงินไว้ให้ลูก และหลังจากนี้ก็จะยังคงทำนาต่อไป
ขณะที่ญาติพี่น้องของนายอำนวย จำนวนมาก ได้มาร่วมแสดงความยินดีกับนายอำนวยที่บ้านพักที่เปิดเป็นร้านขายของชำไม่ขาดสาย ส่วนการถูกรางวัลที่ 1 ครั้งนี้ นายอำนวย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเพราะอธิษฐานกับแม่ที่เสียชีวิตได้ 1 ปีแล้วว่าอยากปลดหนี้ และอีกส่วนหนึ่งเชื่อว่าลูกชายคนเล็กให้โชค
นายอำนวยและภรรยา มีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 5 ขวบ คนเล็กชื่อน้องเจ้านาย เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 เมื่อน้องเจ้านายเกิดมา ก็ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว เลข 12 จำนวน 2 ใบ ต่อมาเมื่อน้องเจ้านายเริ่มโตขึ้น ก็สามารถเริ่มทำมือทำไม้ได้ ก็มักจะหยอกลูก ถามว่าหวยจะออกเลขอะไร น้องเจ้านายก็จะทำมือทำไม้ ก็ไปหาซื้อเลขท้ายตาม และถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และสามตัวอีก 2 งวด ตนคิดว่า เพราะได้ดูแลลูกดีแบบนี้ จึงทำให้ถูกหวยตลอด ชาวบ้านที่พบเห็นก็ต่างแสดงความคิดเห็นมากมาย
และกระทั่งงวดวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ก็ถามน้องเจ้านายอีก น้องก็ทำมือทำไม้ ตนก็ตีเลขท้ายสามตัว มางวดนี้ 1 ตุลาคม 2558 ตามเลขท้ายสามตัวจากงวดที่แล้ว ปรากฏว่าโชคดีถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 คู่ แต่ในวันนี้น้องเจ้านายป่วย เป็นไข้ นอนซมอยู่ในห้องพัก ผู้สื่อข่าวจึงได้แต่เพียงถ่ายภาพน้องเจ้านายจากโทรศัพท์มือถือมาเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย
http://www.siamupdate.com/news-177320
กิ๊กหนุ่มขืนใจเด็กขวบเศษจนตาย ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างเหตุผลบางอย่างที่ฟังแล้วรับไม่ได้ !!!

ตำรวจคุมตัว กิ๊กหนุ่มของแม่ ผู้ต้องหากระทำชำเราเด็กหญิงขวบเศษ จนเสียชีวิต มาสอบปากคำเพิ่ม เจ้าตัวยังปากแข็ง อ้างแค่เอานิ้วสวนทวารให้ เพราะเด็กขับถ่ายไม่ออก แต่ที่หนีเพราะกลัวถูกจับตรวจฉี่
วันที่ 1 ต.ค. พนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย ได้เบิกตัว นายนพรัตน์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย หลังจากก่อเหตุทารุณกรรมกับ ด.ญ.แอน (นามสมมติ) อายุ 1 ปี 8 เดือน จนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองคาย เมื่อเกิดวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา มาสอบปากคำเพิ่มเติม
จากการสอบสวน นายนพรัตน์ ยังให้การปฏิเสธเช่นเดิมว่า ไม่ได้กระทำชำเราหรือข่มขืนเด็กแต่อย่างใด แม้ว่าตำรวจจะสอบปากคำมาตลอดทั้งวันที่ผ่านมา และศาลจังหวัดหนองคายได้อนุมัติหมายจับในข้อหาดังกล่าวแล้ว
นายนพรัตน์ ให้การว่า คบหากับ น.ส.พัชรี แม่ของเด็ก มาประมาณ 1 เดือน เพราะ น.ส.พัชรี อ้างว่าเลิกกับสามีที่เป็นทหารเกณฑ์แล้ว จากนั้นก็ได้มาเปิดห้องที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน ต่อมาในวันที่ 29 กันยายน ช่วงกลางคืน ได้เสพยาบ้ากับ น.ส.พัชรี และเพื่อนอีกคนหนึ่ง ส่วน น้องแอน ไม่สบายและนอนหลับอยู่
หลังจากนั้น น.ส.พัชรี ได้ออกไปซื้อของ ซึ่งเป็นจังหวะที่เด็กตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นแม่จึงร้องไห้งอแง ตนเห็นว่าเด็กมีอาการท้องแข็ง เพราะขับถ่ายไม่ออกและรู้สึกไม่สบาย ประกอบกับเพื่อนอีกคนหนึ่งได้แนะนำให้สวนทวารเด็ก ตนจึงพาเด็กไปเข้าห้องน้ำ และใช้แชมพูทานิ้วชี้ข้างขวา ก่อนจะล้วงสวนทวารให้เด็ก เพื่อที่จะให้เด็กขับถ่ายได้สะดวก ก่อนจะพาเด็กออกมา โดยไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กแต่อย่างใด
ในเวลาต่อมา น.ส.พัชรี กลับมาที่ห้อง เห็นว่าอาการป่วยของลูกสาวยังไม่ดีขึ้น จึงพาไปหาหมอ ซึ่งตนเป็นคนพาไปส่งและอยู่ด้วย เพราะตนก็รู้สึกรักน้องแอน เหมือนกับลูกของตัวเองเช่นเดียวกัน แต่สาเหตุที่หลบหนีเพราะกลัวว่า จะถูกตำรวจจับตรวจปัสสาวะและเจอสารเสพติด ยืนยันว่าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะรอผลตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
ทั้งนี้ น.ส.พัชรี แม่ของเด็ก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ พร้อมกับจะมีการเรียกพยานอื่นๆ มาให้ปากคำเพิ่มเติมต่อไป
http://www.siamupdate.com/news-177301
ช็อกวงการ !! เมื่อ แอน กรุณา มอริส จากนางยักษ์กลายเป็นนางเงือก ทำได้ไง มาดูกัน

มีผู้รายงานข่าวมายัง เว็บไซต์ siamupdate เมื่อ แอน กรุณา มอริส ดาราร่างใหญ่ช่อง7 ลดน้ำหนักเปลี่ยนตัวเองจากนางยักษ์กลายเป็นนางเงือก ทำได้ยังไง วง การนางเงือกสาวร่างเล็กต้องสั่นสะเทือน เมื่อรู้ว่า แอน กรุณา ผู้ที่เคยรับเล่นบทนางยักษ์มาตลอด ลดน้ำหนัก ลงมาได้เกือบ 40 กิโลกรัม มาฟังจากปากของเธอกันค่ะ
สาเหตุ ที่ แอนคิดจะลดน้ำหนักแบบจริงจัง เพราะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องพบกับคุณหมอเพื่อตรวจร่างกาย แล้วคุณหมอได้ทักเธอว่าอยากจะไปต่อเพื่อทำอย่างอื่นอีกไหมในชีวิต หรือว่าจะหยุดไว้แค่นี้ ถ้าอยากไปต่อต้องลดน้ำหนักด่วน!!!แอนบอกว่าอยากไปต่อเพราะยังมีคนข้างหลัง ที่รัก แอนอีกมากมายหลังจากวันนั้น แอนเลยตัดสินใจลดน้ำหนักแบบจริงจัง แต่กว่าจะเจอสูตรที่ใช่ก็นานเหมือนกัน เพราะแอนยอมรับว่าสมัยก่อนเคยกินยาลดความอ้วนแล้วเกิดอาการข้างเคียงคือ ใจสั่น เวียนหัว หงุดหงิดง่ายมาก เธอจึงหยุดทาน เพราะกลัวอันตราย ไม่รู้ว่าในยาลดความอ้วนใส่อะไรลงไปมั่งจนกระทั่งแอนได้เจอกับน้องคนนึงในวง การบันเทิงที่สนิทกัน แล้วสังเกตได้ว่าดาราสาวคนสนิท ผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
แอนเลยได้สอบถาม ดาราสาวคนนั้นบอกกับแอนแบบไม่กั๊กว่าตนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Lipo twin เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ย้ำว่าธรรมชาติจริงๆ ไร้ซึ่งสารเคมี ตอนแรกแอนก็ยังไม่มั่นใจว่าสกัดจากธรรมชาติจริงไหม เลยลองศึกษาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอยู่ 2 สัปดาห์จนแอนมั่นใจในผลิตภัณฑ์ Lipo twin ว่าปลอดภัยมี อย ให้ตรวจสอบได้ชัดเจน และส้มแขกกับผงบุกที่นำมาสกัดก็เป็นแบบออแกนิค ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แอนว่าน่าจะปลอดภัยเหมาะกะตัวเอง เลยเริ่มทานทันที โดยสาวแอนบอกถึงวิธีทานว่า ช่วงแรกตนทาน 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า และ 2 เม็ดก่อนอาหารเย็น แล้วดื่มน้ำตาม 1-2 แก้วใหญ่ๆ จากน้ำหนัก 148 ก็ลงมา 135 และจาก 135 ปัจจุบันเหลือเพียง 98 กิโลกรัม ช็อคสนั่นมาก โดยใช้เวลาเพียง 7-8 เดือน แอนลดน้ำหนักลงไปได้เยอะมากกกก เรียกได้ว่าจากบทนางยักษ์สมัยก่อนลดลงมาเป็นพี่ๆนางเงือกแล้ว พุงที่ว่าเคยใหญ่โตก็ยุบหายไปแล้วตอนนี้ เอาหล่ะสิพวกพระอภัยมนีที่ว่าเคยทิ้งนางยักษ์ไปงานนี้อาจมีเปลี่ยนใจกลับมา ก็ได้เว้ยเฮ้ย 555 แอนให้สัมภาษ์ด้วยอารมณ์ร่าเริงขั้นสุด พร้อมกับหมุนตัวโชว์อีก 3รอบ แล้วทิ้งท้ายสั้นๆไว้ว่า ก็ไม่รู้สิน๊าาา

http://www.siamupdate.com/news-177344
เอาแล้วไง !! ดร.สมิทธเตือน หวั่นใต้สึนามิรอบ2 เขื่อนเสี่ยงแตกเจอน้ำท่วม พอรู้เมื่อไรระวังให้มาก !?

กันไว้ดีกว่าแก้!! ดร.สมิทธเตือน!! หวั่นใต้สึนามิรอบ2 เขื่อนเสี่ยงแตกเจอน้ำท่วมสูง 22 เมตร!!
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่ประเทศเนปาล ตนหวั่นจะเกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ในไทยเป็นครั้งที่ 2 ยิ่งการเกิดแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ขนาด 4.5 ริกเตอร์ ที่เกาะยาว ในช่วงสองวันที่ผ่านมา( 5 พ.ค.) จะส่งผลต่อ "รอยเลื่อน" ในประเทศไทยทั้ง 14 แห่ง และอยากให้ดูข้อเท็จจริงในปีนี้ว่า มีการเกิดแผ่นดินไหวบ่อย ที่จ.เชียงราย และจ.เชียงใหม่ มีบ้านเรือนทรุดจำนวนมาก “ปัญหาที่ผมกลัว เพราะมีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ คือรอยเลื่อนสะแก หรือสกาย เริ่มจากปากแม่น้ำอิระวดี ยาวสุดหัวเกาะสุมาตรา พาดผ่าน จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต เคยเกิดไหวรุนแรงในทะเลห่างจากไทยหลายร้อยกิโลเมตร ยังมีคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปี 2547 ซึ่งระยะเวลาเดินทางของคลื่นแค่ 90 นาที ถือเป็นรอยเลื่อนมีพลังมาก จากการมุดตัวของเปลือกโลกอินเดีย และยูเรซีย มีพลังงานสะสมมากในที่ตั้งภาคใต้ของประเทศไทย ถ้ารอยเลื่อนนี้เคลื่อนตัวอีก จะเกิดสินามิอีกครั้งอย่างรุนแรงขึ้น เพราะขณะนี้รอยเลื่อนนี้เข้ามาใกล้ประเทศไทยมากขึ้น และเปลือกโลกมุดตัวมากกว่าครั้งก่อน อยู่ตรงข้าม จ.ระนอง อ.ตะกั่วป่า อาจเกิดใกล้ฝั่งไทย จะมีคลื่นถึงชายฝั่ง คราวนี้จะใช้เวลา เพียง 30 นาที เนื่องจากเป็นรอยเลื่อนมีพลังเกือบ 10 เส้น ผมยังเป็นห่วงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ใต้เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี ล้วนแต่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนที่มีความเครียดสะสมของพลังงาน ซึ่งตอนนี้มีมากเต็มที่แล้วหากเกิดรอยเลื่อนใหญ่ แม้ไม่ไหวรุนแรง ก็อาจทำให้เขื่อนแตกได้ และจ.กาญจนบุรี อาจเกิดน้ำท่วมสูงถึง 22 เมตร”นายสมิทธ กล่าว
และยังกล่าวต่ออีกว่า ผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล จะส่งผลให้การสะสมพลังงานมากขึ้นของทุกรอยเลื่อนในประเทศไทย ทำให้มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากขึ้นตนไม่อยากเถียงกับพวกนักวิชาการ ที่ชอบออกมาพูดว่าเป็นเพียงการขยับตัวให้เข้าที่ และไม่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ๆ ในไทย แต่ตนเป็นห่วงชาวบ้าน อาจตั้งรับไม่ทัน เพราะหน่วยงานรัฐละเลย ซึ่งประเทศไทยเหมือนแก้วมี 14 รอยร้าว เป็นรอยเลื่อนมีพลังงานมีการขยับตัวปลดปล่อยพลังงาน และยังได้รับผลกระทบจากรอยเลื่อนเปลือกโลกที่มีการขยับตัว ส่งกันไปทั่วโลก บางแห่งไหวอยู่ห่างไกลกันเป็นพัน ๆ กิโล แต่ละเปลือกโลกต่อกันจึงเคลื่อนตัวตามกัน เปลือกโลกยูเรเซีย เปลือกโลกทิเบต อินเดีย มีผลกระทบมาไทย ซึ่งนักวิชาการต่างออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวกัน ความจริงแล้วมันขยับตัวต่อ ๆ กันเหมือนเล่นตัวต่อ จะเคลื่อนมากหรือน้อยเท่านั้น เป็นการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมมาเป็นล้าน ๆ ปี.“
http://www.siamupdate.com/news-182718
งานเข้า!! เมื่อ "เปิ้ล-นาคร" หันมาเจอเมียช็อตนี้ เขาแล้วงานเข้ากูนี้ แต่เมื่อเมียพูดมาเท่านั้น ทำเอาร้องอุทานคำนี้ออกมาเลย

ครอบครัวกำลังสุขสันต์มันส์ฮากันอยู่ แต่ เปิ้ล-นาคร อัพภาพเมียลงไอจี @ple_nakorn ทำเอาคนเห็นภาพตกอกตกใจ พอมาอ่านแคปชั่นว่า
“หันไปเจอช็อตนี้ เอาแล้วงานเข้ากูแน่ นึกว่ามีเรื่องอะไร..... อิห่าน หยอดตา หยอดเยอะไปนะเมีย” เล่นเอาฮากันเลยทีเดีย





http://www.siamupdate.com/news-182720